
แบตเตอรี่โซเดียมไอออนสามารถปฏิวัติวงการรถยนต์ BEV ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ โดยรถยนต์ไฟฟ้า EV จะเข้ามาทำหน้าที่แทนรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้คือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ แหล่งพลังงานขับเคลื่อนของยานพาหนะเหล่านี้
แม้ว่าปัจจุบันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเป็นผู้นำในการใช้ผลิตรถยนต์ EV อยู่ในขณะนี้ แต่เทคโนโลยีใหม่อย่าง แบตเตอรี่โซเดียมไอออน (SIB) กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นจากศักยภาพของมัน ด้วยความหาได้ง่ายกว่า ทนทานกว่า และมีความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า รวมถึงราคาที่ถูกกว่าเทคโนโลยีในขณะนี้ด้วย ซึ่งผลการพัฒนาล่าสุดของ แบตเตอรี่โซเดียมไอออน (SIB) กำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี สำหรับการเอามาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เช่น JAC และ JMEV ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งเทคโนโลยี SIB และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมัน
ในอดีตกาล ภาคยานยนต์มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่สิทธิบัตรเครื่องยนต์สูบเดียวของ Benz-Motorwagen ในปี 1885 มาจนถึงยุคขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในปัจจุบัน การพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อมาจัดการกับข้อจำกัดของเทคโนโลยียุคเก่าด้วยการแทนที่เทคโนโลยีรุ่นใหม่เข้าไปซึ่ง แบตเตอรี่โซเดียมไอออน (SIB) หรือที่รู้จักกันในชื่อแบตเตอรี่ Na-ion หรือ NIB ก็คืออนาคตของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไปนั้นเอง
ข้อดีของ SIB คือความยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นชนิดของแบตเตอรี่ที่ใช้โซเดียมเป็นสารประกอบหลักในการเก็บและปล่อยพลังงานไฟฟ้า เป็นโลหะที่มีอยู่มากมายในธรรมชาติและราคาถูกกว่าแร่อื่นๆ เพราะเหตุนี้ แบตเตอรี่โซเดียมไอออนจึงถูกมองว่าเป็นอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการการเก็บพลังงานขนาดใหญ่ แตกต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรที่หายากและมีราคาสูง อย่าง แร่ลิเธียมและโคบอลต์ นอกจากนี้ SIB ยังมีองค์ประกอบอิเล็กโทรไลต์ที่เรียบง่ายกว่า และสามารถใช้อะลูมิเนียมเป็นตัวสะสมกระแสไฟแทนทองแดง ซึ่งสามารถลดต้นทุนให้ถูกลงได้อีก
นอกจากนี้ SIB ยังมอบข้อได้เปรียบในแง่ของการใช้งานในสภาพอากาศหนาวเย็น ความปลอดภัย และความคล่องตัวในอุตสาหกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบันนี้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำ อย่าง CATL, Northvolt และ Faradion ก็กำลังลงทุนในเทคโนโลยี SIB อยู่อย่างต่อเนื่อง
นี่จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญในการนำ SIB มาใช้ในจริงในรถยนต์ EV เนื่องจาก SIB ในตลาดมีราคาถูกกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประมาณ 30% ถือเป็นโอกาสในการประหยัดต้นทุนที่ดีสำหรับค่ายรถยนต์ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกลงไปด้วยเช่นกัน
แม้ว่า SIB ในปัจจุบันจะมีความหนาแน่นของพลังงานต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แต่ความพยายามในการวิจัยและพัฒนาที่กำลังดำเนินอยู่ก็มีเป้าหมายเพื่อลดข้อจำกัดนี้ เช่น บริษัท Farasis ที่กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ SIB ให้มีประจุพลังงานหนาแน่นขึ้น เพื่อจะนำไปใช้งานในวงกว้าง ความก้าวหน้าด้านประจุพลังงานจะไม่เพียงปรับปรุงช่วงของ EV ที่ขับเคลื่อนด้วย SIB เท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมและความสามารถในการแข่งขันในตลาดอีกด้วย
เส้นทางของแบตเตอรี่โซเดียมไอออน คืออนาคตที่สดใสสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมที่กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของประจุพลังงาน การลดต้นทุน และปรับปรุงความยั่งยืนของอุตสาหกรรม SIB จะเป็นตัวเร่งที่สำหรับสำหรับวงการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงแสวงหาโซลูชันการขนส่งที่สะอาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
credit
theconversation
Autocar