
TESLA เผยโฉม Model 3 Performance 2025 ใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับการอัปเกรดประสิทธิภาพในรถซีดานไฟฟ้ารุ่นท็อปสุดของแบรนด์
ที่สุดของประสิทธิภาพ ทำลายทุกขีดจำกัดที่เคยมีมา การอัปเดต "Highland" ครั้งนี้เพิ่มพละกำลังให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ได้รับกำลังเพิ่มมาเป็น 510 แรงม้า เพิ่มขึ้นจาก 487 แรงม้าในรุ่นก่อนหน้า แรงบิดสูงสุด 741 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 3.1 วินาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อน 0.2 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion NMC ขนาดความจุ 79 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Performance และการปรับเด่นอื่น ๆ เช่น การปรับปรุงแชสซีส์ใหม่ให้เป็น Performance Chassis และปรับช่วงล่างแบบ Adaptive Suspension
ราคาจำหน่าย (ในไทย)
- Model 3 Rear-Wheel Drive ราคา 1,599,000 บาท
- Model 3 Long Range AWD ราคา 1,899,000 บาท
- Model 3 Performance AWD ราคา 2,149,000 บาท
มาตรฐานระยะทางวิ่งอยู่ที่ 528 km. (WLTP) และรองรับ AC Charging ความเร็ว 11.5 kW DC Fast Charging ความเร็ว 250 kW
มิติตัวถัง
- ยาว 1,850 มม.
- กว้าง 4,724 มม.
- สูง 1,431 มม.
- น้ำหนักรถ 1,839 กิโลกรัม
- พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ 682 ลิตร
การรับประกัน
- ตัวถังและสี 4 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง
- อะไหล่ 4 ปี หรือ 80,000 กม. (ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน)
- แบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กม. ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน (คงความจุของแบตเตอรี่ไว้ขั้นต่ำ 70% ตลอดระยะเวลาการรับประกัน)
- ชุดขับเคลื่อน 4 ปี หรือ 80,000 กม. (ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน)
- Wall charger 4 ปี
- หน้าจอสัมผัส 2 ปี หรือ 40,000 กม. (ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน)
ภายนอก
ด้านรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการปรับปรุงโฉมใหม่ดุดันมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐาน โดยมีกันชนหน้า สปลิตเตอร์ ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง และลิปสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ด้านหลังที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ตราสัญลักษณ์ "Ludicrous" ซึ่งอ้างอิงถึงภาพยนตร์คลาสสิก Spaceballs ตกแต่งไว้ภายในและภายนอก ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพที่ต่ำกว่ารุ่น Model S Plaid
เทสลาได้อัปเกรดระบบเบรกใหม่ เพื่อรองรับแรงม้าที่เพิ่มขึ้น เทสล่าอัปเกรดระบบเบรกด้วยคาลิปเปอร์และโรเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้น ติดตั้งอยู่ด้านหลังล้อลาย "Warp Wheels" ขนาด 20 นิ้ว แบบ staggered width หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ Model 3 Performance ได้รับการติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบปรับได้จาก Koni ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Model S Plaid ที่ใหญ่กว่า เร็วกว่า และมีราคาแพงกว่า
ภายใน
ห้องโดยสารได้รับการอัพเกรดที่เน้นประสิทธิภาพด้วยเบาะนั่งแบบสปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ Plaid และมีระบบระบายอากาศมอบความสบายแก่ผู้ขับขี่ กับแผ่นรองเบาะด้านข้างช่วยเพิ่มความกระชับ มีการเน้นลวดลายด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และแป้นเหยียบคันเร่งแบบโลหะ คอนโซลด้านหน้าที่ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา โหมดการขับขี่ให้เลือกได้ 4 โหมด คือ Chill, Standard, Insane และ Track (ที่มีไว้สำหรับสนามปิด) ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้ พวงมาลัยที่มีปุ่มแสดงสถานะ พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นเดิม เช่น ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว หน้าจอสัมผัสด้านหลังสำหรับระบบควบคุมสภาพอากาศและความบันเทิง ระบบเสียงลำโพง 17 ตัว และหลังคากระจกแบบพาโนรามา
สี
- สีดำ Solid Black ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- สีขาว Pearl White Multi-Coat จ่ายเพิ่ม 50,000 บาท
- สีน้ำเงิน Deep Blue Metallic จ่ายเพิ่ม 50,000 บาท
- สีเทา Midnight Silver จ่ายเพิ่ม 75,000 บาท
- สีแดง Ultra Red จ่ายเพิ่ม 85,000 บาท
โดยสามารถไปสัมผัส Model 3 รุ่น Performance ใหม่ด้วยตัวคุณเองวันนี้ที่ Tesla Center รามคำแหงและ Tesla Experience Store สยามพารากอน
และสำหรับตลาดโลกคาดว่าจะเริ่มส่งมอบ Model 3 Performance ในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียภายในสองเดือนข้างหน้า โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1.95 ล้านบาท (52,990 ดอลลาร์สหรัฐ)
Credit: CarExpert