เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในยุโรปกล่าวยอมรับมาตรการต่างๆ จากกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 100% ภายในปี 2035
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป European Automobile Manufacturers' Association (ACEA) ซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์รถยนต์รายใหญ่ทั่วยุโรป กล่าวว่าจะไม่ต่อต้านร่างกฎหมายเหล่านี้ ซึ่งมีกำหนดจะประกาศใช้หลังการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในเดือนมิถุนายนที่จะถึง
โดยนาย Luca de Meo ประธาน ACEA และ CEO ของ Renault กล่าวว่านี่คือความรับผิดชอบของเราต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ "มันไม่ใช่การท้าทายต่อระเบียบใดๆ" ส่งผลให้ตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไปจะไม่มีการผลิตรถยนต์ที่ปล่อย CO2 ออกมาอีก และจะมุ่งเน้นการผลิตไปที่รถยนต์ BEV ทั้งหมด
นายลูก้า เดอร์ เมียว ยังกล่าวกับ Reuters เพิ่มเติมว่า “เราไม่ได้แข่งขันเพื่อเป้าหมายในปี 2035 แต่เราแค่ต้องผลิตมันแล้วต่างหาก”
ACEA ตัดสินใจที่จะไม่คัดค้านกฎระเบียบทั้งหมดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า แม้ว่ายอดจำหน่ายและความต้องการในยุโรปอาจลดลง ในปี 2566 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 15 ของตลาดรถยนต์ใหม่ ส่งผลให้เกิด กลุ่มตลาดใหม่ขึ้นบวกกับกฎระเบียบการปล่อยมลพิษที่เข้มงวด จึงถือเป็นการกดดันจำนวนรถยนต์ดีเซลลดลงเรื่อยๆไปในตัว
ผู้ผลิตในยุโรปต่างก็พยายามชักจูงผู้ซื้อรถยนต์รายใหม่ให้มาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น รวมถึงหาแรงสนับสนุนทางด้านการเงินจากรัฐบาล แต่เยอรมนีซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในตอนนี้ กลับเพิ่งยกเลิกโครงการคืนเงินดังกล่าว ในขณะที่ฝรั่งเศสก็ได้ยกเว้นโครงการส่วนลดเงินคืนรถยนต์ที่ผลิตในจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ แล้วด้วยเช่นกัน นอกจากนี้รัฐบาลยังกล่าวขอให้เหล่าผู้ผลิตในยุโรปลงทุนในโครงสร้างสถานที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อกระตุ้นผู้ซื้อรถยนต์รายใหม่ให้หันไปใช้รถยนต์ BEV
เดิมทีประเทศอังกฤษมีเป้าหมายยกเลิกจำหน่ายรถยนต์เชื้อเพลิงตั้งแต่ปี 2030 แต่ก็ได้ปรับแผนให้เข้ากับประเทศอื่นๆในยุโรปคือปี 2035
Credit
CarExpert
New.massautocar : Fb