Xiaomi Corporation คือบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกจากประเทศจีน มีศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจที่เมืองปักกิ่ง ซึ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อาทิ สมาร์ทโฟน โทรทัศน์ แล็ปท็อป แท็บเล็ต นาฬิกาอัจฉริยะ โคมไฟ เครื่องฟอกอากาศ กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ อุปกรณ์ IT ต่าง ๆ และอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ และล่าสุดรถยนต์ (ดีที่ยังไม่สร้างยานอวกาศ)
Xiaomi SU7 คือ รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากค่าย Xiaomi รายนี้โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมในกรุงปักกิ่ง ซึ่ง Apple Car ของจีนได้รับคำสั่งซื้อเกือบ 90,000 คันภายใน 24 ชั่วโมง!! หลังการเปิดตัว ซึ่งหากนับตามเวลาโดยพื้นฐานแล้วจะขายหมดในปี 2567 และการส่งมอบจะเริ่มภายในสิ้นเดือนเมษายน
รถยนต์ไฟฟ้าได้เข้าชมโชว์รูม 59 แห่งใน 28 เมืองทั่วประเทศซึ่งก็ได้เปิดให้ทดลองขับกันแล้ว ซึ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมาก ลูกค้าบางรายถึงกับรอจนถึงตี 3 กว่าจะขับได้ นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังมอบ SU7 ให้กับอินฟลูเอนเซอร์จีนด้านไลฟ์สไตล์จำนวนมากเพื่อให้ทดลองเอาไปขับขี่และวิจารณ์
เมื่อมี Xiaomi SU7 มากมายบนท้องถนน เรื่องราวเชิงลบก็เริ่มปรากฏขึ้น วิดีโอและรูปภาพของรถเก๋งของ Xiaomi หลายคัน ชนและเกิดอุบัติเหตุแพร่กระจายไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน หนึ่งในวิดีโอเหล่านั้น คนขับ Aqua Blue SU7 สูญเสียการควบคุมรถทดสอบและชนเข้ากับผนังด้านข้าง จากข้อมูลรายงานว่า ผู้ขับขี่รายนี้ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ระดับนี้ก็ควรจะสามารถรับมือกับสิ่งนั้นได้ และไม่ควรเกิดอาการล้อหมุนฟรีที่อันตรายแบบนั้นได้ >> คลิป Xiaomi SU7 ที่เกิดอาการดังกล่าว <<
สิ่งนี้บ่งบอกให้เห็นถึงความล้มเหลวของซอฟต์แวร์การควบคุมการยึดเกาะถนนของยานพาหนะ ซึ่งก็คือ ระบบ Traction Control System หรือตัวย่อ TCS คือ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ที่จะช่วยรักษาแรงฉุดลากเมื่อเร่งความเร็วบนพื้นผิวถนนหากเกิดอาการลื่น ป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรีแล้วเกิดอาการทำให้รถเสียหลัก ซึ่งต้องที่ได้รับการปรับปรุงอย่างดีจะต้องตรวจจับการลื่นไถลของล้อและปรับแรงบิดผ่านมอเตอร์ให้เบรกตามงานเป้าหมาย จากวิดีโอ ระบบ TCS ของ Xiaomi ยังห่างไกลจากคำว่าดี แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่านี่เป็นเพราะ ซอฟต์แวร์ หรือ ฮาร์ดแวร์กันแน่
ตัวอย่างเช่น Tesla มักจะไม่อนุญาตให้มีการทดลองซ้อมขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะ TCS ของ Tesla ปกติดีก็ตาม แต่เพราะเนื่องจากระบบทั้งหมดเพียงแค่วัดรอบการหมุนของล้อที่ขับเคลื่อนต่อนาที (RPM) และตอบสนองเมื่อรอบการหมุนสูงเกินไป ในขณะที่ล้อหมุนตามไม่ทัน เกิดความล่าช้าในการตอบสนอง Tesla จึงมีระบบ TCS อีกตัวไว้ใช้สำหรับการควบคุมการยึดเกาะของมอเตอร์โดยเฉพาะ อิงข้อมูลจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการใช้ในวัดการยึดเกาะของล้อจริง ซึ่งให้ความมั่นใจที่จะตอบสนองได้ทันทีเมื่อล้อสูญเสียการยึดเกาะแต่ยังไม่ลื่นไถลไป สิ่งนี้มีขีดจำกัด ดังนั้นจึงต้องใช้ร่วมกับระบบ TCS ปกติด้วย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย
วิดีโออีกรายการหนึ่งที่แชร์โดย Inside China Auto แสดงให้เห็นว่า Xiaomi SU7 สีม่วง Radiant Purple และระบบกันสะเทือนแบบถุงลมเกิดการชำรุด ทำให้รถทดสอบกลายเป็น Lowrider ไปโดยปริยาย >> pic.twitter.com/cnChina <<
ผู้ใช้ Weibo王金生 รายหนึ่งก็ได้แชร์ภาพของ SU7 ที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในวันนี้ เขาให้ข้อสรุปว่ารถสามารถรับมือการชนได้ดี โดยมีความเสียหายเพียงเล็กน้อยต่อร่างกายเท่านั้น >> คลิป Xiaomi SU7 test car accident in China ที่เกิดความเสียหายเล็กน้อย <<
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ Xiaomi ได้ทำการทดสอบในฤดูหนาวในเมือง Heiha ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน SU7 กลายเป็นหัวข้อข่าวเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ ซึ่งเป็นการบันทึกการชนครั้งประวัติศาสตร์ครั้งแรกของรถยนต์ Xiaomi
อุบัติเหตุที่บันทึกไว้อีกรายหนึ่งคือการชนท้ายแบบทั่ว ๆ ไปของ SU7 กับผู้รถยนต์สัญชาติเยอรมัน BMW M4 การชนกันครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับข้อบกพร่องใด ๆ แต่เกิดจากคนขับที่ประมาทและขับไปชนรถยนต์ท่านอื่นก็เท่านั้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมันเกิดขึ้นก่อนงานเปิดตัว 4วัน ในวันที่ 24 มีนาคม
สรุปจาก บก.ของ carnewschina กล่าวว่า การมอบรถหนัก 2.5 ตัน ยาว 5 เมตร ให้กับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย พร้อมกำลังหลายร้อยแรงม้าใต้ฝากระโปรง โดยมองว่านี่เป็นเพียงแค่ของเล่นอีกหนึ่งชิ้นที่น่าเล่นเท่านั้น คือสิ่งที่สามารถส่งผลย้อนกลับที่รุนแรงและคาดไม่ถึงได้
credit
carnewschina