
เทสล่าเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่น่าผิดหวัง โดยบริษัทรายงานทั้งกำไรและรายได้ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 รายได้ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ 21.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรลดลง 55% อยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การชะลอตัวครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอันเนื่องมาจากความขัดแย้งในทะเลแดงและไฟไหม้โรงงาน GigaFactory การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าจีน และการลงทุนของ Tesla เองในผลิตภัณฑ์ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ การประกาศของ Tesla เกี่ยวกับการเร่งพัฒนา "รถยนต์รุ่นราคาประหยัด" กระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้หุ้นพุ่ง 14% หลังเวลาทำการ
แม้จะยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ราคาถูกนี้ แต่มีแนวโน้มว่าจะใช้แพลตฟอร์มและสายการผลิตที่มีอยู่เพื่อลดต้นทุน ในขณะที่ Elon Musk เองก็ไม่ได้ยืนยันข่าวลือเกี่ยวกับ Model 2 แต่เขาใบ้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 คาดว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในงาน robotaxi ของ Tesla ในเดือนสิงหาคมที่จะถึง
เทสลากำลังมองหาวิธีสร้างรายได้ใหม่ ๆ บริษัทกำลังเจรจาเพื่ออนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี Full Self-Driving และวางแผนที่จะเปิดเครือข่าย Supercharger ให้กับแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้
แม้จะเผชิญกับภาวะถดถอยในไตรมาสแรก แต่อนาคตของ Tesla ดูสดใส นักลงทุนจึงรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสของรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดจากค่ายชื่อรายนี้
Credit: Carscoops