เปิดตัว Mercedes-AMG E53 รุ่นปี 2024 ความเป็นกลางที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริด 6 สูบ ที่ให้พละกำลังถึง 612 แรงม้า (PS) มาแทนที่ในเครื่องยนต์ V8 ของ E63 รุ่นเดิม
E53 นี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดหกสูบที่มีเทคโนโลยีปลั๊กอิน พละกำลังสูงเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V8 ในรุ่นอื่น ๆ ในตลาดสมัยนี้ การประกาศเปิดตัวครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามจากเหล่าแฟนบอยเกี่ยวกับอนาคตของรุ่นยอดนิยมอย่าง E63 เนื่องจาก E53 ที่ถูกจูนประสิทธิภาพขึ้นมาสูงจนเทียบเท่ากับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 โดยมีรายงานเสริมจากสื่อเยอรมันว่าจะไม่มีรุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 มาแทนที่รุ่นเก่าของ Mercedes แล้ว
E-Class คือรถยนต์รุ่น MID ของ Mercedes ที่มีประสิทธิภาพสูง AMG E53 ตัวใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีไฮบริดและทำให้มันมีพละกำลังเทียบเท่ากับรุ่นเก่าอย่าง E63 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ที่ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าและกินพลังงานสูงกว่า
เครื่องยนต์ของ E53 ถูกพัฒนาใหม่จากเวอร์ชันก่อนหน้าที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบ ทวินเทอร์โบมีพละกำลังที่ 449 แรงม้า(PS) ให้แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ได้ถูกอัพเกรดขึ้นมาให้แรงกว่ารุ่นเดิมอย่างมาก โดยรุ่นล่าสุดนี้มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 163 แรงม้า(PS) และแรงบิด 480 นิวตันเมตร จับคู่รวมกันจะได้พลังงานทั้งระบบอยู่ที่ที่ 585 แรงม้า(PS) ให้แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ในการขับขี่ปกติ และโหมดควบคุมการเร่งเร็วแบบ Race Start จะให้กำลังเพิ่มขึ้นไปถึงระดับสูงสุด 612 แรงม้า (PS) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด Torque-Converter และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบแปรผัน 4Matic+
Mercedes-AMG E53 เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที สำหรับ E53 รุ่นใหม่นี้ และความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. (หากซื้อชุดออพชั่น AMG Dynamic Plus จะได้ความเร็วสูงสุดเพิ่มเป็น 280 กม./ชม.) **ถือเป็นพละกำลังระดับเดียวกับเครื่องยนต์ Twin-turbo V8 ใน E63 กำลัง 612 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร แค่แรงบิดน้อยลง
ชุดตัวเลือก AMG Dynamic Plus จะปลดล็อกกำลังสูงสุดไปที่ 612 แรงม้า (PS) จากเดิม 585 แรงม้า(PS) พร้อมด้วยเบรกหน้าแบบคอมโพสิตหกลูกสูบขนาดใหญ่ขึ้น จานเบรกขนาด 390x36 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง เฟืองท้ายด้านหลังแบบล็อคควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และแท่นยึดเครื่องยนต์แบบไดนามิก นอกจากนี้ยังเพิ่มพวงมาลัย AMG Performance ที่หุ้มด้วยหนังไมโครไฟเบอร์และหนัง Nappa พร้อมแป้นหมุนเลือกโหมดขับเคลื่อน
การสร้างความแตกต่างให้กับ E53 - E53 Hybrid 4Matic+ ตามที่วางตลาดจากรุ่น E-Class ทั่วไปคือกันชนหน้าและหลังที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น กระจังหน้า AMG 'Panamericana' พร้อมแผ่นเรืองแสง ซุ้มล้อหน้ากว้างขึ้น 11 มม. และสเกิร์ตข้างใหม่ ล้อมีขนาด 19, 20 หรือ 21 นิ้วในยุโรป และตราไฮบริดบนฝากระโปรงหลังและซุ้มล้อหน้า ปลายท่อไอเสียทรงกลมสี่เส้น ซึ่งเป็นจุดเด่นของรุ่น AMG
สิ่งที่ได้รับการปรังปรุงใน E53 รุ่นใหม่คือเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตรที่ได้รับการปรับรอบเครื่องใบพัดให้มีแรงดันสูงขึ้น โปรแกรมซอฟต์แวร์ รวมถึงระบบระบายความร้อนเพิ่มเติม ใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 21.2kWh ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ สามารถวิ่งด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าไกลถึง 101 กิโลเมตร ที่ความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. แบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 10 ถึง 80% ในระยะเวลา 20 นาที ที่แรงดันไฟกระแสตรง 60kW DC และการชาร์จที่บ้าน 11kW AC รวมถึงยังมีระบบเบรก REGENERATIVE BRAKING แบบหมุนเวียนสี่ระดับ พลังงานจากล้อแต่ละล้อจะถูกดูดกลืนผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าและส่งกลับไปยังแบตเตอรี่ของรถยนต์ ที่สามารถไหลเวียนพลังงานคืนได้สูงสุดถึง 120kW
AMG ได้เพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังของ E53 โดยมีส่วนค้ำด้านหน้าระหว่างแท่นยึดสตรัทระบบกันสะเทือนที่เรียกว่า 'thrust field' ใต้เครื่องยนต์ และสตรัทด้านข้างที่ยาวไปจนถึงด้านหลังของรถ ระบบกันสะเทือนแบบสปริงเหล็กพร้อมแดมเปอร์แบบปรับได้ในโหมด Comfort, Sport และ Sport+ รวมถึงเส้นทางที่กว้างกว่า E-Class ปกติ และระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อหลังพร้อมการหมุนสูงสุด 2.5 องศา ที่ด้านหน้าใช้จานเบรกขนาด 370x36 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ด้านหน้าแบบสี่ลูกสูบ และที่ด้านหลังใช้จานเบรกขนาด 360x26 มม. คาลิปเปอร์ะลูกสูบเดี่ยว พร้อมบูสเตอร์เบรกระบบไฟฟ้า
**'thrust field' ในที่นี้หมายถึงโครงสร้างหรือส่วนที่เป็นกระจังหน้าของเครื่องยนต์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยรับน้ำหนักและการแรงกดที่เกิดขึ้นในรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเร่งเร็ว
โหมดการขับขี่ปกติมี 5 โหมด ได้แก่
- Comfort
- Sport
- Sport+
- Smoothness
- Individual + Electric Battery Hold โหมดรักษาระดับประจุในแบตเตอรี่โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก
ภายในมีตัวเลือกเบาะนั่งแบบสปอร์ตด้านหน้าให้เลือก 2 แบบ หุ้มด้วยหนัง nappa และหุ้มด้วยไมโครไฟเบอร์ พร้อมระบบควบคุมโหมดการขับขี่ เมนูเฉพาะของ AMG
Mercedes-AMG E53 รุ่นปี 2024 มีกำหนดวางจำหน่ายในยุโรปในปลายปีนี้ ในรุ่น Edition 1 โดยมีสีขาวด้านหรือสีเทา แถบสีดำ ล้อขนาด 21 นิ้ว อุปกรณ์ตกแต่งภายนอกสีดำและคาร์บอนไฟเบอร์ ฝาครอบรถ และไฮไลท์สีเหลืองบนเบาะนั่ง เข็มขัดนิรภัย และพื้นวางรองเท้า
แต่สำหรับ E-Class รุ่นปกติมีกำหนดวางจำหน่ายที่ออสเตรเลียในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว
และสำหรับตลาดประเทศไทย Mercedes-benz E-class 2024 ก็ได้เตรียมเปิดตัวในกลางปีนี้แล้ว หรืออย่างเร็วที่สุดรอดูได้ที่งาน THE 45th BANGKOK INTERNATIONAL MOTORSHOW 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2567
หรือคอยติดตามข่าวสารการอัปเดต คลิ๊ก MercedesBenzThailand
Cr. Drive