รถตัวอย่างรุ่น 3 ประตูคันแรกถูกขับออกจากสายการผลิตของโรงงาน Mini Cooper Oxford โดย Charlie Cooper หลานชายของ John Cooper โดยรุ่น 3 ประตูนี้ถือเป็นรถ hatchback รุ่นที่ 3 ของบริษัทของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cooper ควบคู่ไปกับ Cooper Electric และ Countryman ซึ่งจะมีสองรุ่นให้เลือก คือ Cooper C และ Cooper S ที่มีสไตล์ทรงพลังมากขึ้น
โดยได้รับการพัฒนามาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว สำหรับการผลิตมินิคูเปอร์รุ่นใหม่ 3 ประตู Mini Cooper S และ Mini Cooper C อันเป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือของโรงงานผลิตของ BMW Group UK ทั้งสามแห่ง
- โรงงานผลิต Swindon มีหน้าที่รับผิดชอบในการผลิตเครื่องอัดตัวถังและส่วนประกอบย่อย
- BMW Group Plant Hams Hall ในวอร์ริคเชียร์เหนือได้รับมอบหมายให้สร้างเครื่องยนต์เบนซินสามและสี่สูบที่ใช้ในรถมินิคูเปอร์
- โรงงานที่ Oxford เป็นกระบวนการผลิตแหล่งสุดท้าย โดยจะประกอบขึ้นรูปตัวถังรถที่นี่ นอกจากนี้ โรงงานแห่งนี้ยังรับผิดชอบในการทาสีและประกอบขั้นสุดท้ายก่อนส่งออกอีกด้วย
เครื่องยนต์
- ขุมพลังของ Mini Cooper S ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า(ps) และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใน 6.6 วินาที อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.1 ลิตร/100 กม ปล่อย CO2 รวม: 150 - 138 กรัม/กม ตามมาตรฐาน WLTP.
- และสำหรับ Mini Cooper C จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า(ps) และแรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใน 7.7 วินาที อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.9 ลิตร/100 กม ปล่อย CO2 รวม: 146 - 133 กรัม/กม ตามมาตรฐาน WLTP.
รถ MINI 3 ประตูรุ่นใหม่จะมีลักษณะเฉพาะตัวด้วยเส้นโค้งมน โครงรถถูกปรับให้สั้นลง ฐานล้อยาว ระบบกันสะเทือนของ Mini Cooper ให้ความสำคัญสำหรับการควบคุมรถที่คล่องตัว เสริมด้วยการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำและเบรกอันทรงพลังเพื่อความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย
ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมปรับใหม่ รูปทรงโฉบเฉี่ยว มีเซ็นเซอร์เรดาร์ขนาดเล็กและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัวรอบตัวรถคอยช่วยเหลือผู้ขับขี่ ไฟ LED เดย์ไลท์และไฟส่องสว่างแบบเลือกได้สำหรับไฟหน้าและไฟท้ายช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและสไตล์
ภายในห้องโดยสารห้องโดยสารยังคงเอกลักษณ์เดิม การขับขี่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นถนน พร้อมด้วยพวงมาลัยแบบ Vescin แบบใหม่ จอแสดงผล OLED ทรงกลม แถบสลับ MINI ทั่วไป และแผงหน้าปัดผ้าทูโทน หลังคาซันรูฟเป็นกระจกแบบพาโนรามาช่วยเพิ่มบรรยากาศโปร่งสบาย สามารถพับเบาะหลังลงเพื่อขยายพื้นที่เก็บสัมภาระจาก 210 เป็น 725 ลิตรได้
มีออฟชั่นให้เลือกปรับแต่ง 4 แบบ
- Essential
- Classic
- Favoured
- JCW
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับล้ออะลูมิเนียมขนาด 16-18 นิ้ว ที่ออกแบบให้เหมาะสมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทั้งหมดนี้เป็นการตอบสนองความต้องการและความชื่นชอบของแต่ละบุคคลและยังรักษาคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม