
ในรายงานผลการเงินสำหรับปีงบประมาณ 2025 โตโยต้าได้แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 4.8 ล้านล้านเยน แม้ว่ากำไรโดยรวมจะลดลง แต่บริษัทได้เพิ่มเงินปันผลประจำปีขึ้น 15 เยน ในเชิงกลยุทธ์ โตโยต้าได้การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) รวมถึงการก่อตั้งบริษัทย่อยในเซี่ยงไฮ้เพื่อผลิต Lexus BEV และแบตเตอรี่ภายในปี 2027 นอกจากนี้ บริษัทยังเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านการเคลื่อนที่แบบครบวงจร โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น สนามทดสอบ และการใช้ประโยชน์จากรถยนต์ทั่วโลกที่มีมากกว่า 150 ล้านคัน เพื่อขยายบริการและเทคโนโลยี
สรุปผลประกอบการปีงบประมาณ 2025
-
รายได้จากการดำเนินงาน: 4.8 ล้านล้านเยน
-
กำไรสุทธิ: 4.765 ล้านล้านเยน
-
ยอดขายรวม: 48 ล้านล้านเยน
-
ยอดขายรถยนต์: 10.27 ล้านคัน
-
เงินปันผล: เพิ่มขึ้น 15 เยน
เมื่อเปรียบเทียบกับประมาณการทางการเงินสำหรับปีงบประมาณ 2025 รายได้จากการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงสูงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 4.95 แสนล้านเยน โดยมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของยอดขายในรุ่นรถที่ให้ผลกำไรสูง อย่างไรก็ตาม โตโยต้าก็ยังได้รับแรงสนับสนุนจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในการควบคุมและลดต้นทุน อัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินงาน รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการโดยรวมของบริษัท
ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เป็นธุรกิจที่มุ่งเน้นไปทางรถที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจากการผันผวนของยอดขายรถใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วย
- การบำรุงรักษารถยนต์
- การจำหน่ายอุปกรณ์เสริมและอะไหล่
- การจำหน่ายรถมือสอง
- ประกันอุบัติเหตุและบริการทางการเงิน
ธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เติบโตอย่างรวดเร็ว ในอัตรา 1.5 แสนล้านเยนต่อปี โดยโตโยต้ามีแผนที่จะขยายให้มากกว่า 2 ล้านล้านเยน ในปีงบประมาณ 2026