EN / TH

ไม่มีเทอร์โบแล้ว! Honda CR-V e:HEV Minorchange เพิ่ม Blind Spot ราคา 1,4xx,xxx-1,7xx,xxx บาท

7 พฤศจิกายน 2568

BYD ประเทศไทย และ เรเว่ จัดการแข่งขันวัดฝีมือทีมเทคนิค Tech Star 2025 และ Skill Contest 2025

7 พฤศจิกายน 2568

Toyota bZ4X เปิดราคา นำเข้าจากญี่ปุ่น ทำตลาด 2 รุ่น 1,529,000-1,649,000 บาท

7 พฤศจิกายน 2568

NISSAN เผยผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2025 ขาดทุนกว่า 46,000 ล้านบาท พร้อมอัพเดตแผน Re:Nissan

6 พฤศจิกายน 2568

Nissan ขายสำนักงานใหญ่โยโกฮามา มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท

6 พฤศจิกายน 2568

เปิดตัว Honda WN7 บิ๊กไบค์ไฟฟ้า วิ่งไกล 140 กม. แบตขนาด 9.3 kWh

5 พฤศจิกายน 2568

Honda V3R 900 E-Compressor Prototype มอเตอร์ไซค์ต้นแบบ เครื่องยนต์ V3

5 พฤศจิกายน 2568

Honda Motorcycles เปิดตัว CB1000GT สปอร์ตทัวเรอร์ 4 สูบเรียง 1,000 ซีซี 150 แรงม้า

4 พฤศจิกายน 2568

NISSAN เปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นสำหรับตลาดญี่ปุ่น ณ Japan Mobility Show 2025

30 ตุลาคม 2568

เผยโฉมฮอนด้า ซีโร่ อัลฟ่า เจาะญี่ปุ่น อินเดีย ปี70

29 ตุลาคม 2568

เปิดหน้า FJ ตัวจริงสวนกระแส EV สุดฮอตใน JMS2025

29 ตุลาคม 2568

นิสสันชงสูตรแกร่ง! เปิดตัว Elgrand-Patrol-Ariya รุ่นใหม่ ฟื้นตลาดญี่ปุ่น

29 ตุลาคม 2568

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า บทความ

จับทิศ "อรุณ พลัส" ถอยเมื่อทุนไทยไม่ไปต่อในอุตฯยานยนต์ไฟฟ้า

9 สิงหาคม 2568| จำนวนผู้เข้าชม 2,972

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของไทยได้ขยับตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีทั้งผู้เล่นภาครัฐ เอกชน และต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง ท่ามกลางการผลักดันนโยบายคาร์บอนต่ำและการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ล่าสุด การเข้าซื้อหุ้น 100% ของบริษัท Neo Mobility Asia โดย MGC-ASIA กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ ทั้งในเชิงธุรกิจและกลยุทธ์ระหว่างสองขั้วพลังของอุตสาหกรรม EV คือ MGC-ASIA และกลุ่ม ปตท. ผ่านบริษัทในเครือ อรุณ พลัส

 

 



Neo Mobility Asia เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA Greentech และ อรุณ พลัส โมบิลิตี้ โฮลดิ้ง (AMH) ในเครือ ปตท. โดยถือหุ้นในสัดส่วน 49.99% และ 50.01% ตามลำดับ จุดมุ่งหมายคือการจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม โดยเฉพาะแบรนด์ XPENG จากจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี EV อย่างไรก็ตาม เมื่อ 5 ส.ค.68 ที่ผ่านมา รายงานข่าวจาก Corporate Communications Department ของ บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ประกาศว่า บริษัท ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมด ในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด จากบริษัท อรุณ พลัส โมบิลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด (AMH) ส่งผลให้เข้าถือหุ้น 100% ใน ‘บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัดการซื้อขายครั้งนี้มีมูลค่า 83 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 และเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568

 

การที่ ปตท. ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดใน Neo Mobility Asia ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ร่วมกับ MGC-ASIA เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร สะท้อนถึงการปรับทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ ปตท. ในการมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายจากภาวะอุปทานส่วนเกินในภาคโรงกลั่นและปิโตรเคมีทั่วโลก

 

ภัทราลดา สง่าสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของ ปตท. ระบุว่า การขายหุ้นครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจหลัก และทบทวนกลยุทธ์ในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านกระแสเงินสดและตำแหน่งทางการแข่งขันในระยะยาว

 

Neo Mobility Asia เดิมเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA Greentech และ AMH เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าและบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า ประกันภัย การเช่า การรีไฟแนนซ์ และศูนย์บริการหลังการขาย โดยมีเป้าหมายในการเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 100% เช่น XPENG และ ZEEKR ในประเทศไทย ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจากจีน การที่ MGC-ASIA เข้าถือหุ้นเต็มจำนวนทำให้บริษัทสามารถกำหนดทิศทางกลยุทธ์ EV ได้อย่างอิสระและคล่องตัวแน่นอนว่าการครอบครอง Neo Mobility Asia 100% ช่วยให้ MGC-ASIA สามารถปรับกลยุทธ์ EV และโมบิลิตี้ให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างรวดเร็ว

 


อย่างไรก็ตามการถอนตัวของ ปตท. จาก Neo Mobility Asia ถือเป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม EV ไทย ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ปตท. ซึ่งเคยเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจ EV ผ่านการก่อตั้ง Arun Plus และการร่วมทุนกับพันธมิตร เช่น Foxconn และ CATL เพื่อพัฒนา supply chain ยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน แม้โครงการนี้จะไม่สำเร็จ ดูเหมือนจ บทบาทในภาคยานยนต์ไฟฟ้า ช่วงแรกของปตท.นั้นโดดเด่น ด้วยการมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมันและก๊าซที่เผชิญความท้าทาย จากการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า

 

การเข้าซื้อหุ้น Neo Mobility Asia เต็มรูปแบบของ MGC-ASIA เป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย การถอนตัวของ ปตท. จากธุรกิจ EV สะท้อนถึงการจัดลำดับความสำคัญใหม่ของยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ในขณะที่ MGC-ASIA ในฐานะ ผู้นำในระบบนิเวศยานยนต์ ด้วยนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐและความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น อนาคตของ MGC-ASIA ในอุตสาหกรรม EV ดูสดใส แต่การแข่งขันที่รุนแรงและความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นบททดสอบสำคัญที่บริษัทต้องก้าวข้าม

 

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า กลุ่ม ปตท. เริ่มชัดเจนกับบทบาทของตนเองในอุตสาหกรรม EV แทนที่จะลงแข่งในทุกแนวรบ ก็ถอนตัวไปให้ความสำคัญกับการนำทรัพยากรที่แข็งแกร่งขององค์กร กลับมาโฟกัสกับจุดยุทธศาสตร์เดิมที่ ปตท.ควบคุมได้มากกว่า

 

 

บทความโดยยุทธพงษ์ ภาษี

 


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

TOYOTA LAND CRUISER Fj คนไทยอยากได้ดีเซล แต่เบนซินขายก่อน แล้วไทยได้อะไร..?

22 ตุลาคม 2568

พาส่อง! แบรนด์ยานยนต์ที่โตโยต้าครอบครองและถือหุ้นในปี 2025

1 กันยายน 2568

รีวิว KIA EV5 GT-LINE AWD หน้าตาดี ตกแต่งสไตล์สปอร์ต ขับขี่ไม่โดดเด่นแต่ถูกใจสายครอบครัว

20 กรกฏาคม 2568

บทบาทฟอร์ดในภาวะสงคราม

6 มิถุนายน 2568

ก่อนลมหายใจสุดท้ายของ เนต้า

6 มิถุนายน 2568

ไขหลักการทำงาน "หัวฉีด i-ART" กุญแจความประหยัด TOYOTA HILUX REVO

28 กุมภาพันธ์ 2568

EV ไทยในเงื้อมมือจีน: เมื่อแผนใหญ่ต้องเจอความเสี่ยงและความท้าทาย"

20 มกราคม 2568

ข่าวร้ายส่งท้ายปี รง.เนต้าไทย เลิกจ้าง" เมื่อบริษัทแม่อ่อนแอ บริษัทลูกขาดอากาศหายใจ"

26 ธันวาคม 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ