EN / TH

Audi E5 Sportback รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่พัฒนาร่วมกับ SAIC

25 เมษายน 2568

GWM วางแผนตีตลาดกระบะฟูลไซส์ ท้าชนแบรนด์อเมริกา Chevrolet Ford RAM

25 เมษายน 2568

ZEEKR Group เปิดตัว ZEEKR 9X SUV ขุมพลังไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์

25 เมษายน 2568

Toyota เปิดตัว bZ7 ซีดานไฟฟ้าระดับเรือธง พัฒนาร่วมกับ GAC

24 เมษายน 2568

All-new Lexus ES เปิดตัวแล้ว มาพร้อมขุมพลังไฮบริดและไฟฟ้า!

24 เมษายน 2568

GAC Honda GT และ Dongfeng Honda GT รถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์พิเศษสำหรับตลาดประเทศจีน

24 เมษายน 2568

เปิดตัว Nissan Frontier Pro รถกระบะปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link

23 เมษายน 2568

Dongfeng Nissan N7 เปิดตัวที่งาน Auto Shanghai 2025 วิ่งได้ไกล 635 กิโลเมตร!

23 เมษายน 2568

เผยภาพภายใน Mazda EZ-60 มาพร้อมจอกลางขนาด 26 นิ้ว ความละเอียด 5K

22 เมษายน 2568

เนต้า ผู้อยู่ริมหน้าผา ใกล้กลับมาเกิดใหม่เพราะ .....?

19 เมษายน 2568

เผยสเปคและราคาในออสเตรเลีย KIA Tasman

18 เมษายน 2568

Honda Fit ไมเนอร์เชนจ์ในประเทศจีน กระจังหน้าเปลี่ยนใหม่หมด!

18 เมษายน 2568

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า บทความ

ไขหลักการทำงาน "หัวฉีด i-ART" กุญแจความประหยัด TOYOTA HILUX REVO

28 กุมภาพันธ์ 2568| จำนวนผู้เข้าชม 551

 

เวลารีวิว TOYOTA HILUX REVO พอพูดถึงเครื่องยนต์ปัจจุบัน ก็จะพูดถึงการจ่ายน้ำมันจากหัวฉีด i-ART เทคโนโลยีหัวฉีดอัฉริยะ บลาๆๆ แต่ผมเชื่อว่า บางท่านก็คงยังสงสัย ว่ามันทำงานยังไง อัฉริยะตรงไหน..?

 

เอาแบบสรุป มันเป็นหัวฉีดที่ควบคุมด้วยระบบกล่องควบคุม ECU ก็คือเอาระบบคอมพิวเตอร์ หรือสมองอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปคุมการจ่ายน้ำมันสัมพันธ์กับการเหยียบคันเร่ง จริงอยู่ว่า..เครื่องยนต์หลายค่ายก็คุมด้วยกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์กันมานานแล้ว แต่วันนี้เรามาพูดถึง i-ART ของ TOYOTA ที่พัฒนาโดย DENSO ว่ามันทำงานอย่างไร..? ทำไมมันถึงตอบสนองต่อการใช้งานรถตั้งแต่การบรรทุกหนัก ไปจนถึงการใช้งานโดยสาร


 

i-ART ย่อมาจาก intelligent - Accuracy Refinement Technology โดยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลของ HILUX REVO กับ FORTUNER ในปัจจุบัน ที่หัวฉีดแรงดันสูงจะมีเซ็นเซอร์ขนาดเล็กติดตั้งเอาไว้ด้วย เพื่อวัดแรงดันน้ำมันบนหัวฉีดน้ำมันแต่ละตัว ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของหัวฉีดได้อย่างละเอียดและต่อเนื่อง รวมทั้งปรับการทำงานของหัวฉีดในแต่ละลูกสูบได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีการฉีดน้ำมันเข้าสู่การเผาไหม้ได้อย่างอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหลักการทำงาน คือ เมื่อเหยียบคันเร่ง สัญญาณจะถูกส่งไปที่กล่องควบคุมและประมวลผลอิเล็กทรอนิกส์ ECU เพื่อคำนวณการสั่งจ่ายน้ำมันตามองศาของการเหยียบแป้นคันเร่งไฟฟ้า เมื่อถอนคันเร่งจะหยุดการฉีดน้ำมันและเปลี่ยนมาสั่งฉีดจ่ายปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงเท่ากับรอบเดินเบาทันที หัวฉีดน้ำมันทั่วไป จะจ่ายน้ำมันตอนที่ถอนเท้าออกจากคันเร่งสูงกว่ารอบเดินเบาเพื่อป้องกันเครื่องดับฉับพลัน แต่หัวฉีด i-Art จะจ่ายน้ำมันเท่ากับรอบเดินเบา ส่วนต่างตรงนี้คือการช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และใช้น้ำมันเท่าที่จำเป็นเหมาะสมต่อกำลัง โดยมีหลักการทำงานดังนี้

 

ทุกการจุดระเบิด จะมีการฉีดน้ำมัน 2 ครั้งต่อการเผาไหม้
- ครั้งที่ 1: ฉีดน้อย เพื่อปรับความร้อน และแรงดัน

- ครั้งที่ 2: ฉีดเพื่อจุดระเบิดเอากำลัง ทำให้เครื่องเดินเรียบ ลดเสียงเครื่องยนต์ดัง

โดยการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง 2 ครั้งในทุกการจุดระเบิดนี้ ระบบจะคำนวณความเหมาะสมของการฉีด และจะแบ่งการฉีดให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมต่อกำลังในการจุดระเบิดเสมอ

 

ปัจจุบัน หัวฉีด i-ART ที่ใช้ในปัจจุบัน (ใน Hilux Revo 2020) ใช้รหัส G4.5S-i ใช้ปลั๊กแบบ 6 ขั่ว หัวฉีดเดิมก่อนหน้าเป็นแบบ 2 ขั่ว รหัส G4S



 

ถ้าจะอธิบายลงไปอีก หัวฉีด i-ART เป็นหัวฉีดที่มีเซ็นเซอร์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละหัวฉีด และสามารถรองรับแรงดันการฉีดน้ำมันได้สูง เมื่อมีเซ็นเซอร์ 1เซ็นเซอร์ต่อ 1 หัวฉีด กล่อง ECU ก็สามารถควบคุมการจ่ายน้ำมันได้มีประสิทธิภาพขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อหยียบคันเร่งแล้ว สัญญาณถูกส่งไปที่กล่อง ECU เพื่อคำนวณการสั่งการระบบต่างที่เกี่ยวข้องการการสันดาป แบ่งเป็นการควบคุม 2 ด้าน คือ 1 ด้านการจุดระเบิด และ 2 ด้านการไหลเวียนอัดอากาศและควบคุมไอเสียให้เหมาะสม

  • หัวฉีดแรงดันสูงส่งผลให้ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ละเอียดมากแบบฝอยละออง

 

ด้านการจุดระเบิด ระบบจะส่งสัญญาณไปวาล์วควบคุมจังหวะของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ควบคุมวาล์วระบายแรงดันที่รางคอมมอลเรล ควบคุมเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันที่รางคอมมอลเรล และควบคุมเซ็นเซอร์ที่หัวฉีดจ่ายน้ำมัน

 

ด้านการไหลเวียนอัดอากาศและคุมไอเสีย ระบบจะควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อบริเวณท่อไอดี และควบคุมเทอร์โบไฟฟ้าเพื่อแปรผันอากาศให้เหมาะสมทั้งฝั่งอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้และฝั่งคายไอเสีย

 

เมื่อกล่อง ECU ควบคุมการทำงานทั้งสองด้าน จึงส่งผลให้การทำงานของส่วนต่างๆสัมพันธ์กัน เพื่อตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่ง คุมการฉีดจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมกับการจุดระเบิด เพื่ออัตราเร่งที่ต่อเนื่อง และลดการใช้น้ำมันในขณะถอดคันเร่งให้มากกว่าหัวฉีดแบบเดิม

 

สำหรับการใช้งาน เมื่อเราขับรถเดินทาง หากเป็นเส้นทางในเมืองหรือในจังหวะที่เราต้องการกำลัง การเร่งแซง ระบบก็จะสามารถสั่งการไปที่หัวฉีดได้อย่างเหมาะสมกับการเรียกกำลังเครื่องยนต์ และหากเป็นการเดินทางออกนอกเมือง หรือเท้านิ่งวิ่งยาว ระบบก็จะคำนวณการฉีดจ่ายน้ำมันต่อรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม โดยไม่ฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้เกินความจำเป็น

 

ฉะนั้นประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งมาจากการคำนวณของระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานผ่านเซ็นเซอร์ในจุดต่างๆ บวกกับเซ็นเซอร์วัดแรงดันที่หัวฉีด i-ART จึงเป็นกุญแจสำคัญในความประหยัดของกระบะ Toyota Hilux Revo

 

 

บทความโดย: MassAutoCar


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

EV ไทยในเงื้อมมือจีน: เมื่อแผนใหญ่ต้องเจอความเสี่ยงและความท้าทาย"

20 มกราคม 2568

ข่าวร้ายส่งท้ายปี รง.เนต้าไทย เลิกจ้าง" เมื่อบริษัทแม่อ่อนแอ บริษัทลูกขาดอากาศหายใจ"

26 ธันวาคม 2567

วิเคราะห์เครื่องยนต์ใหม่ ISUZU คาด..ยังไม่ทิ้งเครื่อง 1.9 และ 3.0 เพราะ..?

16 พฤศจิกายน 2567

เวียตนาม ส่งออกเข้าไทย"สัญญาณเตือนครั้งใหญ่" หากรัฐไม่ตื่นมีล่ม

9 พฤศจิกายน 2567

BYD ผู้เปลี่ยนโฉมหน้าตลาดรถไทย และบทเรียนของผู้เร่งซื้อBEV

3 กรกฏาคม 2567

ซูซูกิ ปิดโรงงานนัยยะแฝงที่มากกว่าหยุดผลิต

7 มิถุนายน 2567

ผ่าเนื้อในรถยนต์ไทย ทำไมร่วงเละ ไตรมาส 2 ยังไร้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

7 พฤษภาคม 2567

อีซูซุ ซีรี่ส์ ตอน 4: จากเดี่ยวไดเร็คฯ สู่กระบะอีวี

28 เมษายน 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ