BYD SEAL 5 DM-i ทำตลาดในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่นย่อย โดยมาพร้อมราคาพิเศษช่วงเปิดตัว รายละเอียดดังนี้
- SEAL 5 DM-i รุ่น Standard ยังไม่ได้มีการประกาศราคา โปรดติดตามต่อไป
- SEAL 5 DM-i รุ่น Premium ราคาพิเศษ 699,900 บาท (ราคาปกติ 769,900 บาท)
*ราคาพิเศษ Early Bird ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน
BYD SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID จัดอยู่ในรถยนต์กลุ่มซีดานขนาดกลาง มาพร้อมขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ตัวรถมาพร้อมกับภาษาดีไซน์ Ocean Aesthetics กระจังหน้าไร้กรอบแบบ Dot Matrix ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full LED ไฟท้ายรมดำ พร้อม LED Light Bar ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 215/55R17
SEAL 5 DM-i มาพร้อมขับขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน Xiaoyun 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle ให้พละกำลัง 72 กิโลวัตต์ (97 PS) แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลัง 145 กิโลวัตต์ (197 PS) แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งผลให้พละกำลังรวมอยู่ที่ 160 กิโลวัตต์ (217 PS) แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 7.5 วินาที ช่วงล้างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut และด้านหลังแบบ Torsion Beam ดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยดิสก์เบรคล้อหน้าเป็นแบบระบายความร้อน
ในรุ่น Premium จะได้ Blade Battery ขนาด 18.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งโดยใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกล 120 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเฉพาะไฟฟ้ากระแสสลับ AC เท่านั้น สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ รองรับระบบ V2L 2.2 กิโลวัตต์ ตัวรถมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 12V แบบ LFP ซึ่งสามารถชาร์จตัวเองได้โดยการดึงไฟจากแบตลูกใหญ่มาช่วย โดยเคลมอายุการใช้งานยาวนานกว่า 5 ปี ตัวแบต 12V รับประกัน 6 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อม Smart Control บริเวณคอนโซลกลางที่รวมปุ่มควบคุมไว้ หน้าจอเรือนไมล์ ขนาด 8.8 นิ้ว หน้าจอกลางแบบลอยตัว ขนาด 12.8 นิ้ว ลําโพง 8 ตําแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะด้านหลังมีพนักพิงศีรษะ ปรับระดับแยกกันได้ทั้ง 3 ตําแหน่ง และมีที่พักแขนตรงกลางพรอมที่วางแก้ว 2 ตําแหน่งระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองฝุ่น PM2.5 และช่องปรับอากาศตรงกลางด้านหลัง ที่ชารจ์โทรศัพทมือถือแบบไร้สาย ระบบสั่งงานด้วยเสียง ภาษาไทย / ภาษาอังกฤษ ระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC (NFC Card) BYD Digital Key และรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต (OTA)
BYD SEAL 5 DM-i มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยดังนี้
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ (Intelllgent Driving Technology)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วโดยอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือน เมื่อมีรถผ่านจุดอับสายตา ขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบช่วยควบคุมรถ ไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP)
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมเซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้า 2 จุด และ เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหลัง 4 จุด
อุปกรณ์ความปลอดภัย (Passive Safety)
- ถุงลมนิรภัย 6 จุด ประกอบด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- โครงสร้างตัวถังแบบ Roll Cage Body
- โครงสร้างประตูมีคานขวางในตัว และหล่อโครงประตูเป็นชิ้นเดียวกัน ช่วยซับแรงกระแทกจากการถูกชน ด้านข้าง หรือพลิกคว่ำ
สีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่
- สีขาว Arctic White
- สีดำ Cosmos Black
- สีเทา Harbour Grey (เฉพาะรุ่น Premium)
มิติตัวถัง BYD SEAL 5 DM-i
- ความยาว 4,780 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,837 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,495 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,718 มิลลิเมตร
ไฮไลท์รุ่น Standard
- Blade Baterry ขนาด 13.08 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าประมาณ 80 กิโลเมตร NEDC
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟเลี้ยวหลังแบบ Sequential
- ที่ปัดน้ำฝนแบบควบคุมความถี่ได้
- กระจกข้างฝั่งผู้ขับขึ้น-ลงอัตโนมัติพร้อมระบบกันหนีบ
- จอเรือนไมล์ขนาด 8.8 นิ้ว
- หน้าจอกลางสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto
- ลำโพง 4 ตำแหน่ง
- ช่อง USB 2 ตำแหน่ง (เฉพาะด้านหน้า)
- เบาะนั่งหุ้มผ้า
- เบาะผู้ขับขี่ปรับมือ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง
- NFC Card Key
- การอัปเดตข้อมูลตัวรถแบบ Over The Air (OTA)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ไส้กรอง PM2.5
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- กล้องมองหลัง
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
- เซนเซอร์ถอยหลัง 4 จุด (ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง)
- Auto Break Hold
- ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS)
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC)
- ระบบจดจำป้ายจราจร (TSR)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IBC)
- ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP)
สิ่งที่รุ่น Premium ได้เพิ่มขึ้น ได้แก่
-
Blade Baterry ขนาด 18.3 kWh
-
ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า 120 กม. NEDC
-
ฟังก์ชันจ่ายไฟภายนอก (V2L)
-
อะแดปเตอร์สำหรับจ่ายไฟภายนอก (V2L Discharge Adapter)
-
ระบบชาร์จอัจฉริยะ
-
กระจกมองข้างพับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ
-
ไฟส่องพื้นใต้กระจกมองข้าง (LED Puddle Light)
-
เซนเซอร์ตรวจจับน้ำฝน
-
กระจกหน้าต่างหน้า-หลังเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
-
หน้าจอกลางขนาด 12.8 นิ้ว
-
ลำโพง 8 ตำแหน่ง
-
แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
-
พอร์ต USB 4 จุด (ด้านหน้า 2 จุด, ด้านหลัง 2 จุด)
-
เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์
-
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
-
เบาะผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
-
ที่วางแขนตรงกลางเบาะหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง
-
ไฟส่องสว่างบริเวณพื้นที่วางเท้า
-
บริการ Cloud Network
-
กุญแจดิจิทัล BYD
-
เซนเซอร์ช่วยจอด 6 จุด (ด้านหน้า 2 จุด, ด้านหลัง 4 จุด)
-
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
-
ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
-
ระบบตรวจจับมุมอับสายตา (BSD)
-
ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง (RCTA)


















