สำหรับยอดขายตลอดทั้งปีงบประมาณ 2024 อยู่ที่ 3.346 ล้านคันทั่วโลก ลดลงร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยยอดขายในประเทศจีนลดลงถึงร้อยละ 12.2 สืบเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงกับผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศ ในไตรมาสที่ 4 ยอดขายทั่วโลกลดลงร้อยละ 5.2 โดยยอดขายในประเทศจีนลดลงถึงร้อยละ 19.2

จากรายงานผลการเงินในปีงบประมาณ 2024 ยอดขายทั่วโลกของนิสสันอยู่ที่ 3.346 ล้านคัน โดยได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านยอดขายที่รุนแรงขึ้น รายได้สุทธิรวมของนิสสันอยู่ที่ 12.6 ล้านล้านเยน (2.8 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 69.8 พันล้านเยน (1.5หมื่นล้านบาท) คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ 0.6% ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 670.9 พันล้านเยน (1.5 แสนล้านบาท) แม้ว่ากระแสเงินสดอิสระและกำไรจากการดำเนินงานในธุรกิจยานยนต์จะติดลบทั้งคู่ แต่มูลค่าเงินสดสุทธิของธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 1.498 ล้านล้านเยน (3.3 แสนล้านบาท)
นิสสันได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดครั้งใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรุ่นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจากฐานลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ในขณะเดียวกันยังคงรักษาอัตลักษณ์ของแบรนด์ผ่านรถยนต์ที่สะท้อนถึง DNA ของนิสสัน สำหรับตลาดในประเทศจีน บริษัทจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicles: NEVs) พร้อมทั้งเดินหน้าส่งออกรถยนต์ที่ผลิตและทำตลาดในจีนไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในระดับโลก อีกทั้งยังมีการเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ Renault, Mitsubishi Motors และพันธมิตรในจีน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก