นิสสัน มอเตอร์ เตรียมขายสำนักงานใหญ่ระดับโลกในเมืองโยโกฮามา มูลค่า 97,000 ล้านเยน (ราว 2 หมื่นล้าน) ให้กับกลุ่มนักลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Minth Group บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัทที่กำลังเผชิญภาวะยากลำบาก
แหล่งข่าวระบุว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะดำเนินการโดยบริษัทจัดตั้งพิเศษที่บริหารโดย KJR Management ซึ่งเป็นหน่วยงานอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทไพรเวทอีควิตี้ยักษ์ใหญ่ KKR ในญี่ปุ่น
หุ้นของนิสสันพุ่งขึ้นสูงสุด 3.9% ในการซื้อขายช่วงเช้าที่โตเกียว ก่อนรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้ แม้ราคาหุ้นโดยรวมจะลดลงกว่า 27% ตั้งแต่ต้นปี
ขณะนี้นิสสันอยู่ในช่วงดำเนินมาตรการลดต้นทุนครั้งใหญ่ ทั้งการปลดพนักงานและปิดโรงงานหลายแห่ง หลังต้องเผชิญภาวะการเงินเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 20 ปี โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทคาดว่าจะขาดทุนจากการดำเนินงานราว 275,000 ล้านเยน ในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2026 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทออกแนวโน้มขาดทุนอย่างเป็นทางการ การขายสำนักงานใหญ่ริมแม่น้ำในโยโกฮามาครั้งนี้คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบบางส่วนได้
Minth Group จะเป็นนักลงทุนหลักในการทำธุรกรรมมูลค่า 97,000 ล้านเยน ซึ่งอยู่ในรูปแบบของสัญญา ขายและเช่าคืนระยะยาว 20 ปี (Sale and Leaseback) โดยนิสสันจะบันทึกกำไรสุทธิราว 74,000 ล้านเยน
นิสสันระบุว่ารายได้จากการขายจะถูกนำไปใช้ในการลงทุนสำคัญและพัฒนาระบบภายในให้ทันสมัย โดยยืนยันว่าการขายนี้จะไม่กระทบต่อการดำเนินงานหรือจำนวนพนักงานที่สำนักงานใหญ่ พร้อมระบุว่า “นี่เป็นแนวทางบริหารทุนอย่างมีวินัย เพื่อปลดล็อกมูลค่าจากสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และสนับสนุนการปรับโครงสร้างในช่วงเวลาท้าทายของบริษัท”
สำนักงานใหญ่ของนิสสันเดิมตั้งอยู่ในย่านกินซ่า กรุงโตเกียว ก่อนจะย้ายมายังเมืองโยโกฮามาในปี 2009 หลังสร้างอาคารใหม่บนพื้นที่ที่เป็นต้นกำเนิดของบริษัท
ซีอีโอ อีวาน เอสปิโนซา (Ivan Espinosa) เคยให้คำมั่นเมื่อต้นปีว่าจะปลดพนักงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง และลดจำนวนโรงงานผลิตทั่วโลกจาก 17 แห่ง เหลือเพียง 10 แห่ง
นิสสันยังคงเผชิญปัญหากำไรตกต่ำและภาระหนี้สินจำนวนมาก หลังจากความวุ่นวายในการเปลี่ยนผู้นำหลายครั้งและไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่ล้าสมัย ประกอบกับยอดขายในสหรัฐอเมริกาและจีนที่อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: Japan Times