
เดือนตุลาคม ปี 2014 บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อ Zhejiang Hozon New Energy Automobile Co., Ltd. ( Hozon Auto ซึ่งเป็นบริษัทก่อนหน้าของเนต้า ) ก่อตั้งขึ้นอย่างเงียบๆ ในเมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง
ผู้ก่อตั้ง คือ ฟาง หยุนโจว (Fang Yunzhou) เขาเคยทำงานในค่าย เชอรี่ นิว เอ็นเนอยี(Chery New Energy) ด้วยความรู้ทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เมื่อกระแสรถยนต์พลังงานใหม่กำลังมาในจีน เขาก็ออกจาก เชอรี่ และก่อตั้ง Hozon Autoแต่ นับจากตั้งแต่ปี 2559-2560 Hozon Auto เกือบจะล้มละลายเนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินเป็นอย่างมาก ในปี 2018 ฟาง หยุนโจว ได้เชิญ จาง หยง (Zhang Yong) จาก BAIC New Energy เข้าร่วม Hozon Auto ในฐานะผู้ก่อตั้งร่วมและ CEO ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานประจำวันและกลยุทธ์การตลาดของบริษัท
ชื่อเนต้า (ในจีนแรกว่าแบรนด์ Nezha )ได้รับมาจาก จาง หยง “ผู้มีประสบการณ์ด้านการตลาด” โดยได้ก่อตั้งโมเดลด้วยกลยุทธ์ “ราคาต่ำ แต่คุณค่าสูง” ซึ่งสามารถ เปิดตลาดอย่างรวดเร็วด้วยการเน้นเจาะตลาดรถยนต์ขนาด B เช็คเมนท์ผ่านโมเดลหลักคือ เนต้า ซีรีส์ V และซีรี่ส์ U ก่อนจะขายผ่าน บริการเรียกรถออนไลน์และแท็กซี่
ในจีนปี 2021เนต้า มียอดขาย 69,674 คันต่อปี เพิ่มขึ้น 362% จากปีก่อน และเป็นแบรนด์ที่อยู่ ในระดับแนวหน้าของกลุ่มรถพลังใหม่ ในปี 2022เนต้า กลายเป็นแบรนด์พลังใหม่รายแรกที่มียอดขายประจำปีเกิน 150,000 คัน ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายประจำปีของแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์ใหม่ และกลายเป็น "ม้ามืด" ของอุตสาหกรรม ความสำเร็จดังกล่าวทำให้เนต้า กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในตลาด และเป็นที่ต้องการของเหล่านักลงทุนเป็นอย่างมาก
นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมาเนต้า ได้ดำเนินการจัดหาเงินทุนไปแล้ว 11 รอบ มียอดรวมเงินทุนเกือบ 3 หมื่นล้านหยวน ที่น่าสนใจคือ เดือนตุลาคม 2021 บริษัท 360 ได้ประกาศว่าจะลงทุนเงินของตนเองทั้งหมด 29,000 ล้านหยวนในเนต้าโดยถือหุ้น รวม 16.594% ของหุ้นทั้งหมด
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาไฮไลท์ของเนต้า ไม่ได้ยาวนานนัก ยอดขายของเนต้า ลดลงต่อเนื่องในอีก 2 ปีถัดมาโดยในปี 2566 ยอดขายลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหลือ 127,500 คัน การลดลงนั้น มากขึ้นในปี 2567 โดยลดลง 49.37% จากปีก่อน โดยมียอดขายเพียง 64,500 คันเท่านั้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2024 Hozon Auto ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หนังสือชี้ชวนระบุว่าตั้งแต่ปี 2021 - 2023เนต้า มีผลดำเนินงานขาดทุนสะสมเกิน 18,300 ล้านหยวนใน 3 ปีในเวลาไม่ถึงสองปี เนต้า เปลี่ยนจากการเป็นผู้นำยอดขายในกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ใหม่ สู่การต้องเผชิญความวุ่นวายในปัจจุบัน
การสูญเสียยอดขายหลายปีทำให้เนต้า Auto ได้รับแรงกดดันทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ในความเป็นจริง ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้วเนต้า ต้องเผชิญกับข่าวเชิงลบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก การลดเงินเดือน การชำระเงินค้างชำระกับซัพพลายเออร์ และการระงับการทำงานและการผลิตเนื่องจากความยากลำบากในการดำเนินงาน ในช่วงกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 มีรายงานข่าวในโลกออนไลน์หนาหูว่า เนต้าไม่สามารถจ่ายค่าจ้างได้อีกต่อไป และยังเป็นหนี้เงินกับซัพพลายเออร์เป็นจำนวนมาก มีคำแนะนำให้ "ทุกคนระมัดระวังในการซื้อเนต้า"
ขณะนั้น ผู้รับผิดชอบเนต้าที่เกี่ยวข้องรวมถึงในไทย ได้เผยแพร่ เอกสารข่าวว่า บริษัทกำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลงการจัดการภายในเชิงบวกหลายประการ ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างเงินเดือนและปรับปรุงระบบประเมินผลการปฏิบัติงานให้เหมาะสม ในระหว่างกระบวนการนี้ พนักงานขายแนวหน้าและพนักงานโรงงานได้รับค่าจ้างตรงเวลา และพนักงานที่เหลือได้รับค่าจ้าง 50% ก่อน และส่วนที่เหลือจะได้รับค่าจ้างหลังจากที่แผนได้รับการอนุมัติ นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเผยว่าขณะนี้ผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงกำลังปรับปรุงมูลค่าหุ้นและปรับโครงสร้างเงินเดือน โดยต้องยืนยันความเป็นเจ้าของก่อน IPO ดังนั้นเงินเดือนบางส่วนจึงได้รับการจ่ายเงินช้าลงเล็กน้อย
ปลายเดือนตุลาคม 2567 มีข่าวว่าเนต้า Auto เริ่มดำเนินการตามแผนการลดเงินเดือนของบุคลากร R&D ทั้งหมด ในเดือนพฤศจิกายน 2567 สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข่าว ว่าเนต้า ได้เริ่มการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ระบุ อัตราการเลิกจ้างอาจสูงถึง 70% โดยมีความแตกต่างกันในแต่ละแผนก ส่วนผู้บริหารของเนต้า ขี้แจงว่า บริษัทกำลังสร้างโครงสร้างองค์กรที่รวมศูนย์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบูรณาการแผนกต่างๆ ตามความต้องการทางธุรกิจและความต้องการพัฒนาในอนาคต
ในวันที่ 6 ธันวาคม 2567 เนต้า ได้ประกาศว่าเนื่องมาจาก "การปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์" จาง หยง จะไม่ดำรงตำแหน่ง CEO อีกต่อไป แต่จะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา และผู้ก่อตั้ง ฟาง หยุนโจว จะดำรงตำแหน่ง CEO ควบคู่ไปด้วย ในเดือนมกราคม 25668 ปริมาณขายปลีกในจีนของเนต้า มีเพียง 110 คัน ลดลงอย่างรวดเร็วถึง 97.76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในเวลาต่อมา โรงงานต้องปิดตัวลง ซัพพลายเออร์และตัวแทนจำหน่ายต่างก็ร่วมกันปกป้องสิทธิของตน และปัญหาต่างๆ เช่น พนักงานไม่ได้รับค่าจ้างและเจ้าของรถไม่มีบริการหลังการขาย ก็เกิดขึ้น
เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2568 มีข่าวลือว่าเนต้า จะยุบทีม R&D โดยระบุว่าพนักงานที่ลงนามในขั้นตอนการลาออกภายในหนึ่งสัปดาห์จะได้รับเงินชดเชย N+1 และวันที่ลงนามในเงินชดเชยจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤษภาคม ในเวลาเดียวกัน ชาวเน็ตเปิดเผยว่าซัพพลายเออร์กำลังเรียกเก็บหนี้ที่สำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ฝ่ายกฎหมายของเนต้า ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยระบุว่าการ "ยุบทีม R&D" เป็นเพียงข่าวลือแต่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างก็ลาออกทีละคน และระบบ R&D ก็แทบจะล่มสลาย
หลังจากนั้นได้มีการเปิดเผยว่าจาง หยง ได้ยื่นขอวีซ่าที่อังกฤษและอยู่ที่นั่นก่อนจะลาออกจากงาน บริษัทในเครือของเขาถูกกล่าวหาว่าโอนทรัพย์สิน และบริษัทสาขาก็กลายเป็นเพียง "เปลือกเปล่า"
ในช่วงบ่ายของวันที่ 14 เมษายน 2568 จาง หยง ได้อัปเดตข่าวสารให้กับกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา ดูเหมือนเป็นการตอบรับข่าวลือที่ว่าเขา "อยู่สหราชอาณาจักรแล้ว" จาง หย่ง กล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของคุณ ผมได้เห็นข่าวลือบ้างในอินเทอร์เน็ต ตอนนี้ผมยังคงทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับเนต้า และดำเนินการจัดหาเงินทุนให้กับบริษัท อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้จุดชนวนให้เกิดข้อสงสัยต่อสาธารณชนว่าเขา "หลบหนีความรับผิดชอบและลาออก" หรือไม่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนถูกเปิดเผยออกมาทีละอย่าง และการพัฒนาของเนต้าก็ต้องสั่นคลอน เมื่อเผชิญกับวิกฤต ฟาง หยุนโจว ได้ก้าวออกมาจากเบื้องหลัง และเนต้าซึ่งดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลาสิบปีได้เริ่มการ "กอบกู้ตัวเอง"
รายงานเมื่อในเดือนธันวาคม 2567 จาง หย่ง ซีอีโอถูกไล่ออกและฟาง หยุนโจว เข้ารับตำแหน่งซีอีโอและเสนอมาตรการปฏิรูปที่สำคัญ 6 ประการฟาง หยุนโจว กล่าวเมื่อครั้งนั้นว่า “เนต้า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุ IPO เป้าหมายของเนต้า คือยอดขายครึ่งหนึ่งอยู่ในจีนและอีกครึ่งหนึ่งในตลาดต่างประเทศ โดยที่อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมจะกลับมาเป็นบวกในปี 2568 และบริษัทจะมีกำไรในปี 2569”เพื่อช่วยเหลือตัวเองเนต้า ได้ใช้มาตรการต่างๆ เช่น การหาทุน ลดต้นทุน และการโอนย้ายบุคลากร ตั้งแต่ปีที่แล้ว ในเดือนมกราคมของปี 2568 นี้เนต้า กล่าวว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเนต้าได้ดำเนินการปรับภายในหลายอย่าง เช่น "มุ่งเน้นที่การลดขนาด" และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรายเดือนลดลงมากกว่า 70%
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคมเนต้า จัดการประชุมซัพพลายเออร์ที่สำนักงานใหญ่เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการแปลงหนี้เป็นทุน สำหรับหนี้ของซัพพลายเออร์บางราย และได้รับการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่ ตามแผนดังกล่าวเนต้าวางแผนที่จะแปลงหนี้ซัพพลายเออร์ 70% เป็นทุนของบริษัทแม่ Hozon Auto และหนี้ 30% ที่เหลือจะได้รับการชำระคืนเป็นงวดๆ ด้วยเงินสดเป็นหนี้สะสมที่ปลอดดอกเบี้ย
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม2568 เนต้า ได้ประกาศอีกครั้งว่าบริษัทได้บรรลุความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับนิสสัน ลิสซิ่ง(NLTH) ซึ่งเป็นสถาบันด้านการเงินยานยนต์ระดับมืออาชีพของไทย โดยได้รับการสนับสนุนสินเชื่อ เป็นเงิน 10,000 ล้านบาท (2,150 ล้านหยวน) ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของเนต้า ที่"ใช้ตลาดต่างประเทศเพื่อตอบสนองต่อปัญหาภายในประเทศ"เนื่องจากเนต้ามีโรงงานประกอบรถยนต์ในไทย และการตอบรับของลูกค้าชาวไทยยังคงดีอยู่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มกราคม บริษัทแม่ของเนต้า อย่าง Hozon New Energy ได้จัดการประชุมกับผู้ถือหุ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการระดมทุน Series E ที่กำลังดำเนินอยู่ เป็นที่เข้าใจกันว่าขนาดการจัดหาเงินทุนที่วางแผนไว้สำหรับรอบนี้คือราว 4,000 - 4,500 ล้านหยวน และผู้ลงทุนหลักจะลงทุนราว 3,000 ล้านหยวน อย่างไรก็ตามเนต้า ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับความคืบหน้าในการระดมทุน Series E ในปัจจุบัน
การขึ้นและลงของเนต้า ถือเป็นตัวอย่างเล็กๆ ของการแข่งขันอันดุเดือดและอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา วันนี้ชะตากรรมของเนต้ายังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย หากมีการระดมทุนแบบ E-round ก็อาจได้รับการผ่อนผันชั่วคราว แต่ว่าจะฝ่าฟันความยากลำบากในอนาคตได้หรือไม่ ยังต้องใช้เวลาในการทดสอบ
สำหรับเนต้า กับเงิน 1 หมื่นล้านบาทจากไทยน่าจะเป็นการปลดล็อค สภาพคล่องฐานผลิตเนต้าชั่วคราว ซึ่งดูเหมือนว่า แผนการหาแหล่งเงินทุนของเนต้า จากไทยยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ แหล่งจากวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยกับ Massautocar ว่า มีการเจรจากับทุนไทยรายใหม่และหากการเจรจากับนักลงทุนรายต่อไปสำเร็จ เนต้าก็จะถอยห่างจากปากเหวและกลับมามั่นคงในอนาคต
ที่มา: massautocar รวบรวม
:เจิ้งกวน NEWS