EN / TH

BYD Sealion 6 เวอร์ชั่นกระบะ? BYD ยื่นจดสิทธิบัตรรถกระบะขนาดเล็กโครงสร้างโมโนค็อก

24 ตุลาคม 2568

CHANGAN เตรียมเปิดตัวรถใหม่อีก 7 โมเดล นำร่องก่อน 3 รุ่น

24 ตุลาคม 2568

Isuzu MU-X Tour Mate รุ่นตกแต่งพิเศษ เพิ่มกันชนเหล็กและชุดลากจูง ทำตลาดออสซี่

24 ตุลาคม 2568

SUZUKI CARRY ฉลองยอดขายสะสมเกิน 50,000 คัน จัดแคมเปญ ดอกเบี้ย 1.99% หรือ ผ่อนเริ่มต้นวันละ 222 บาท

24 ตุลาคม 2568

Volvo ES90 ซีดานไฟฟ้าเรือธง 333 ม้า วิ่งไกล 755 กม. NEDC ราคา 2,990,000 บาท

23 ตุลาคม 2568

TOYOTA LAND CRUISER Fj คนไทยอยากได้ดีเซล แต่เบนซินขายก่อน แล้วไทยได้อะไร..?

22 ตุลาคม 2568

ISUZU D-MAX X-SERIES รุ่นตัวเตี้ย SPEED เครื่อง 2.2 Maxforce พร้อมปรับหน้าตา ราคา 768,000 - 864,000 บาท

21 ตุลาคม 2568

ISUZU D-MAX HI-LANDER ปรับหน้าตา ยกเลิกเกรด ZP

21 ตุลาคม 2568

ยกเลิก 2 ประตู ISUZU D-MAX X-SERIES HI-LANDER ตัวยกสูง เครื่อง 2.2 ราคา 1,002,000-1,041,000 บาท

21 ตุลาคม 2568

ได้พวงมาลัยไฟฟ้ากับกล้องรอบคัน! ISUZU D-MAX V-CROSS ราคา 937,000-1,297,000 บาท

21 ตุลาคม 2568

ราคาเดิม! ISUZU MU-X ช่วงล่างใหม่ ADAS ทุกรุ่นย่อย ยกเลิกเครื่อง 3.0 ในรุ่น Elegant และ Ultimate

21 ตุลาคม 2568

เผยโฉม! TOYOTA LAND CRUISER FJ เบนซิน 2.7 ลิตร 163 แรงม้า แพลตฟอร์ม IMV

21 ตุลาคม 2568

ไม่พบข้อมูล

กลับไปหน้า บทความ

บทบาทฟอร์ดในภาวะสงคราม

6 มิถุนายน 2568| จำนวนผู้เข้าชม 656

b

 

ปี 1918

 

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ฟอร์ดได้สร้างเรือลาดตระเวนต่อต้านเรือดำน้ำ “Eagle” ที่โรงงานใหม่ริมแม่น้ำรูจ (Rouge River)


แม้เฮนรี ฟอร์ดจะเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพอย่างแข็งขัน แต่เขาก็ให้การสนับสนุนประเทศของเขาเมื่อเห็นได้ชัดว่าสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยใช้เทคนิคการผลิตแบบสายพานซึ่งฟอร์ดพัฒนาอย่างเชี่ยวชาญในการผลิตรถยนต์ โดยใช้โรงงาน River Rouge ผลิตเรือ Eagle เพื่อใช้ไล่ล่าเรือดำน้ำเยอรมัน

 

 

 

ปี 1922

 

ฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี มีประวัติศาสตร์แห่งการให้เกียรติกองทัพ ตั้งแต่เมื่อเฮนรี ฟอร์ด เริ่มจ้างทหารผ่านศึกผู้พิการที่กลับมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1

 

การยอมรับความหลากหลายนี้ทำให้ฟอร์ดเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่จ้างผู้พิการและปรับสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของพวกเขา เฮนรี ฟอร์ดยังให้เกียรติทหารผ่านศึกเหล่านี้ด้วยการจัดขบวนรถ Model T จำนวน 50 คัน พาพวกเขาไปร่วมประชุมที่ซานฟรานซิสโก

 

 

ปี 1940

 

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี ยุติการผลิตรถพลเรือนทั้งหมด เพื่อทุ่มเททรัพยากรให้กับกองทัพพันธมิตร

 

แม้ว่าการผลิตเพื่อพลเรือนทั้งหมดจะหยุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 1942 ตามคำสั่งรัฐบาลสหรัฐ แต่โรงงาน River Rouge ได้เริ่มให้การสนับสนุนกองทัพตั้งแต่ปี 1940 มีการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินในปีนั้น และโรงเรียนฝึกทหารเรือก็ถูกส่งมอบให้กองทัพเรือในเดือนมกราคม 1941 โรงงานผลิตสิ่งของหลากหลายให้กองทัพ รวมถึงเครื่องยนต์ ซุปเปอร์ชาร์จ ยานยนต์สะเทินน้ำสะเทินบก Blitz Buggies และแผ่นเกราะ

 

 

 

ปี 1942

 

นอกจากอากาศยานแล้ว โรงงานของฟอร์ดยังผลิตยานพาหนะ 277,896 คัน (รถถัง รถหุ้มเกราะ และยานสำรวจ GPW)

 

ตามคำร้องขอของรัฐบาล ฟอร์ดได้ออกแบบตัวถังกันน้ำและคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ สำหรับยาน GPW จากนั้นจึงผลิตรุ่นสะเทินน้ำสะเทินบกจำนวน 13,000 คัน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการปฏิบัติภารกิจที่ซิซิลีและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

 

 

 

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟอร์ดได้รับมอบหมายให้ช่วยผลิตอาวุธที่สำคัญที่สุดของฝ่ายสัมพันธมิตร (เครื่องบินทิ้งระเบิด B-24)

 

แรกเริ่มรัฐบาลขอให้ฟอร์ดช่วยผลิตชิ้นส่วนให้บริษัท Douglas Aircraft และ Consolidated Aircraft ซึ่งผลิตเครื่องบิน B-24 Liberator ในแคลิฟอร์เนีย หลังจาก Edsel Ford และ Charles Sorenson ไปเยี่ยมชมโรงงานของทั้งสองบริษัท พวกเขาเชื่อว่าฟอร์ดสามารถผลิตได้เร็วกว่าและมีคุณภาพดีกว่าโรงงานที่ยังใช้แรงงานมือทั้งหมด เพื่อให้เป็นเช่นนั้น ฟอร์ดจึงสร้างโรงงานที่ใหญ่ที่สุดภายใต้หลังคาเดียวในยุคนั้น ที่เมืองอิปซิแลนที รัฐมิชิแกน ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ แต่ในเดือนกันยายน 1942 เครื่องบินลำแรกก็ถูกส่งออก จากนั้นในกลางปี 1944 ฟอร์ดผลิตได้ถึงลำที่ 5,000 และสิ้นสุดสงครามด้วยยอดผลิตกว่า 8,000 ลำ

 

 

 

เมื่อชายหนุ่มหลายล้านคนออกไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 กลุ่มแม่บ้าน มารดา และลูกสาวก็รับช่วงงานต่อ

 

ทุกคนได้รับการร้องขอให้ “ร่วมมือกัน” กลุ่มแรงงานหญิงผู้บุกเบิกเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ "Rosie the Riveter" พวกเธอเข้าทำงานในโรงงานแทนผู้ชาย และวางรากฐานแห่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญ

 

 

รถฟอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา!

 

ฟอร์ดผลิตแผ่นเกราะและเครื่องยนต์สำหรับยานพาหนะหุ้มเกราะหลากหลายชนิดในสายการผลิตทางทหาร รวมถึงรถถังขนาดใหญ่ 32 ตันอย่าง M-4 รถถังพิฆาต M-10 และรถบรรทุกหุ้มเกราะขนาดเล็ก

 

 

 

ปี 1944

 

เพื่อประเทศอเมริกา ฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี ทุ่มเททุกสิ่งเพื่อสันติภาพ

 

เฮนรี ฟอร์ดยังชื่นชอบการไปเยี่ยมชมโรงงานของเขา แม้ในวัย 81 ปี การปรากฏตัวของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในปี 1944 องค์กร American Legion ได้มอบเหรียญเกียรติยศ Distinguished Service Medal ให้เฮนรี ฟอร์ด เพื่อยกย่องการช่วยเหลือทหารผ่านศึกจากทั้งสองสงคราม

 

 

ปี 1945

 

เมื่อสิ้นสุดสงคราม ฟอร์ดได้ผลิตเครื่องบินจำนวน 86,865 ลำ เครื่องยนต์เครื่องบิน 57,851 เครื่อง และเครื่องร่อนทางการทหาร 4,291 ลำ

 


แชร์บทความนี้


ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง

TOYOTA LAND CRUISER Fj คนไทยอยากได้ดีเซล แต่เบนซินขายก่อน แล้วไทยได้อะไร..?

22 ตุลาคม 2568

พาส่อง! แบรนด์ยานยนต์ที่โตโยต้าครอบครองและถือหุ้นในปี 2025

1 กันยายน 2568

จับทิศ "อรุณ พลัส" ถอยเมื่อทุนไทยไม่ไปต่อในอุตฯยานยนต์ไฟฟ้า

9 สิงหาคม 2568

รีวิว KIA EV5 GT-LINE AWD หน้าตาดี ตกแต่งสไตล์สปอร์ต ขับขี่ไม่โดดเด่นแต่ถูกใจสายครอบครัว

20 กรกฏาคม 2568

ก่อนลมหายใจสุดท้ายของ เนต้า

6 มิถุนายน 2568

ไขหลักการทำงาน "หัวฉีด i-ART" กุญแจความประหยัด TOYOTA HILUX REVO

28 กุมภาพันธ์ 2568

EV ไทยในเงื้อมมือจีน: เมื่อแผนใหญ่ต้องเจอความเสี่ยงและความท้าทาย"

20 มกราคม 2568

ข่าวร้ายส่งท้ายปี รง.เนต้าไทย เลิกจ้าง" เมื่อบริษัทแม่อ่อนแอ บริษัทลูกขาดอากาศหายใจ"

26 ธันวาคม 2567

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ยอมรับ