ทำไมเครื่องยนต์ดีเซล ยังไม่พร้อมทำตลาด คำตอบ อ่านได้ที่ Headlightmag.com ฝั่ง MassAutoCar มาบอกในส่วนที่ไทยได้ประโยชน์จากการที่โตโยต้าเริ่มทำตลาดรถยนต์รุ่นนี้ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร Land Cruiser Fj เป็นรถยนต์ที่โตโยต้ามองการทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก และเครื่องยนต์เบนซินก็มีอัตราการปล่อยมลพิษที่ต่ำกว่า และใช้ต้นทุนน้อยกว่าในการทำรถให้ได้ผ่านมาตรฐานไอเสียทั่วโลก ฉะนั้นเมื่อต้องการทำกำไร และพัฒนารถได้ไวกว่า การใช้เครื่องยนต์เบนซินจึงเป็นทางออกที่เร็วกว่าการใช้เครื่องดีเซล โตโยต้าต้องการลดต้นทุนรถยนต์รุ่นนี้ให้ได้มากที่สุด แต่ยังต้องอยู่บนมาตรฐานสินค้าแบบ Global Model การหยิบใช้โครงสร้างและชิ้นส่วนจาก HiLux จึงเป็นทางออก เพราะมันต้องวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นน้องเล็กต่ำกว่า Land Cruiser 250 การเลือกพื้นฐานจากโครงการ iMV ที่ลงทุนไว้มหาศาลในไทยจึงเป็นจุดที่เหมาะสม
ลองคิดอีกมุม ถ้าเกิดเขาเริ่มขายที่ตัวเบนซินแบบนี้แหละครับ ประกอบไทยด้วย แต่ไม่ขายไทย เพราะรอดีเซล พวกคุณก็ด่าเขาอีกว่า ว่าทำไมไม่ขายไทยบ้าง ประกอบที่บ้านเราแท้ๆ เบนซินมาก่อนก็ได้ คุณก็จะบ่นกันแบบนี้ พอเขาขายพร้อมประเทศอื่น แต่มีแค่เครื่องเบนซินก่อน คุณก็บ่นว่าต้องการเครื่องดีเซล ทำไมไม่ทำ..? ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ แต่มันทำไม่ทัน การทำรถให้มันวิ่งได้ มันไม่ยาก ไอ้ที่ยากคือ ทำให้ผ่านข้อกฎหมายในต้นทุนที่กำหนด ฉะนั้นเมื่อรถจะขายทั่วโลก จึงต้องอิงตลาดส่วนใหญ่ นี่ไม่ใช่กระบะ Pickup สมัยก่อนที่ไทยเป็นตลาดใหญ่ขายได้หลักแสนๆคัน แต่นี้มันตลาด SUV ที่ต้องการจำนวนความต้องการจากหลายประเทศรวมกัน กับไทยที่ยอดขายรถยนต์รวมทุกค่ายตกเหลือไม่ถึง 6 แสนคันในปี 2567 เศรษฐกิจตอนนี้ก็ย่ำแย่ รถยนต์จากอุตสาหกรรมยานยนต์จีนตีตลาด เงินของคนไทยที่มีกำลังซื้อก็แชร์ส่วนแบ่งไปให้รถยนต์นำเข้า หรือรถยนต์ที่นำเข้าชิ้นส่วนจากจีนมาประกอบไทย ยังไม่รวมเรื่องอื่นๆที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ ด้วยสถาการณ์นี้ โตโยต้าต้องมองการทำตลาดต่างประเทศเพื่อทำโวลุ่มให้มากพอที่จะคุ้มทุนในการทำตลาด
ในสถาการณ์นี้ การที่โตโยต้าเลือกประกอบ Fj ในไทย ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรถรุ่นนี้เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ แม้เบนซินจะไม่จูงใจลูกค้าคนไทยได้ดีเท่าเครื่องดีเซล แต่เบนซินที่โตโยต้าเลือกทำตลาดก่อน มันส่งออกไปขายต่างประเทศ นำเงินเขาประเทศไทย ผู้ผลิตชิ้นส่วนมีงานจากออเดอร์ของโตโยต้า เป็นจุดที่ทำให้ไทยมีรายได้ในภาวะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยทดถอย ถ้าจะรอดีเซลผลิต แต่ต้องรออีกพักใหญ่ และมีแค่ลูกค้าไทยที่ถูกใจเป็นหลัก ต้องรออีกเมื่อไหร่ กับโวลุ่มที่เทียบกับตลาดส่งออกไม่ได้ บริษัทชิ้นส่วนซัพพลายเออร์ที่รายได้หดจากยอดขายกระบะและรถยนต์ประกอบในประเทศลดลง จากนโยบายที่ไม่รัดกุมของภาครัฐเราเอง อย่างน้อยกับการที่ดีเซลยังไม่มีเป็นตัวเลือกในตอนนี้ แต่ไทยเราก็ยังได้ประโยชน์จากการส่งออก Land Cruiser Fj คนไทยชุดแรกที่อดใจไม่ไหวซื้อตัวเบนซิน ก็ได้ใช้รถพร้อมประเทศอื่น ร้านแต่งรถ ร้านช่วงล่างมีรถใหม่เจ้าตลาดเป็นตัวเลือกให้คนจะมาใช้บริการ มีการหมุนเวียนเงินในอุตสาหกรรมและวิถีชีวิตของคนไทย นีคือข้อดีแม้ Land Cruiser Fj ยังไม่มีเครื่องยนต์ดีเซลจำหน่าย
ปัญหาของไทยคือปัญหาโครงสร้างราคาน้ำมันที่ไม่เหมือนประเทศอื่น คนไทยก็เลยอยากได้เครื่องยนต์ดีเซล แต่ปัญหาของไทย มันไม่ใช่ปัญหาของคนทั้งโลก เรายึดตัวเองเป็นศูนย์กลางไม่ได้ และจริงๆแล้ว ถ้าปัญหาของเราคือน้ำมันแพง ปัญหาอยู่ที่โครงสร้างราคาน้ำมันของไทยเรา หรือปัญหาอยู่ที่การไม่มีเครื่องยนต์ดีเซลทำตลาด อย่าโยนปัญหาไปที่ปลายเหตุที่คนไทยต้องแบกภาระ แล้วปล่อยให้พวกมีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหามันลอยตัว
บทความโดย: ตระกูล ลินทมิตร / MassAutoCar